Pitfall Domain Name Register

สำหรับคนที่อยากมีเว็บไซต์ หรือเว็บแอพพลิเคชั่น ที่มีชื่อโดเมน ก็จำเป็นต้องมีการจดชื่อโดเมนเป็นของตัวเอง ซึ่งการจดชื่อโดเมนนั้นก็สามารถทำได้ไม่ยาก มีผู้ให้บริการจำนวนมากมาย ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละรายก็จะมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป ตัวอย่างชื่อผู้ให้บริการที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน godaddy.com namecheap.com name.com ซึ่งผู้ให้บริการนอกจากรายใหญ่ๆที่กล่าวข้างต้นแล้ว ก็ยังมีรายเล็กๆรองลงมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเน้นในเรื่องของฟีเจอร์ที่แตกต่างหรือราคาที่ดึงดูดใจ Pitfall ด้วยการแข่งขันที่สูง จึงทำให้ผู้ให้บริการโดเมนในแต่ละค่ายจะมีโปรโมชั่นที่แตกต่างกันไป ในโพสต์นี้จะขอกล่าวถึงสิ่งที่ต้องพิจารณาในการที่จะจดชื่อโเมนสักชื่อ เพื่อไม่ให้ตกหลุมพรางหรือกับดักที่ผู้ให้บริการต่างๆนำมาหลอกล่อได้ ราคาที่น่าสนใจ หลายๆที่ใช้กลยุทธ์ราคาเป็นตัวดึงดูดความสนใจ แต่โปรโมชั่นเกือบทั้งหมด จะเป็นโปรโมชั่น “เฉพาะปีแรก” เท่านั้น ซึ่งราคาในปีถัดๆไป มักจะเป็นราคาที่สูงตามปกติ ราคาที่ถูกในปีแรก แต่ต้องซื้อบริการตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป ซึ่งหากนำมาเฉลี่ยแล้วส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยแตกต่างจากราคาปกติเท่าไหร่ บริการเสริมบางอย่าง สามารถหาได้ฟรี แต่ถูกนำมาคิดเงินร่วมกับการให้บริการชื่อโดเมน เช่น WhoIs Privacy หรือ SSL หรือการจด Sub-domain คุณจึงควรเลือกโดเมนที่มีบริการเหล่านี้ให้ใช้ฟรี รู้อย่างนี้แล้ว การจดชื่อโดเมนแต่ละครั้งจึงควรพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาทำการย้ายผู้ให้บริการในภายหลัง

June 3, 2025

Why SME Need Own Web Application?

SME (ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) ควรมี Web Application เป็นของตัวเองเพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ข้อดีหลัก ๆ มีดังนี้ เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงาน ระบบอัตโนมัติ: ลดงานเอกสารและงานซ้ำซ้อน เช่น ระบบบริหารสต็อก ระบบออกใบแจ้งหนี้ และระบบติดตามคำสั่งซื้อ ลดค่าใช้จ่าย: แทนที่จะต้องใช้หลายซอฟต์แวร์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง การมี Web Application ของตัวเองช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว รองรับการทำงานจากทุกที่: เจ้าของธุรกิจและพนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลและทำงานได้จากทุกที่ ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่สำนักงาน ปรับแต่งให้เหมาะกับธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น แพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ทั่วไปอาจไม่ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ การมี Web Application ของตัวเองช่วยให้ปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะทางได้ เช่น การคำนวณราคาซับซ้อน การจัดการสินค้าหลากหลายประเภท สร้างแบรนด์และความน่าเชื่อถือ มี Web Application ที่ใช้งานภายใน เช่น ระบบ CRM หรือ ERP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร พัฒนา Web Application ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาใช้บริการ เช่น ระบบจองคิว ระบบสั่งซื้อสินค้า หรือระบบสมาชิก ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ เพิ่มโอกาสทางการตลาดและการขาย สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Social Media, E-commerce, หรือ Marketplace ได้ง่าย เก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมและทำการตลาดที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูล ไม่ต้องพึ่งพาบริการจาก Third-party ที่อาจมีความเสี่ยงเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล สามารถกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เหมาะกับลักษณะของธุรกิจได้ สรุป การมี Web Application ของตัวเองช่วยให้ SME ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดต้นทุน ปรับตัวได้เร็ว และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าธุรกิจต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน Web Application ถือเป็นเครื่องมือที่ไม่ควรมองข้าม ...

May 23, 2025